แต่อย่างไรก็ตามกระบวนการที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดและตอบโจทย์ได้ทั้งหมดเพราะภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาที่บางครั้งก็ไม่มีกฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัวไม่ว่าจะเป็น ไวยากรณ์ การสร้างประโยค การออกเสียง หรือการผสมเสียงในภาษาอังกฤษก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น ตัวอักษร ‘a’ อาจจะออกเสียงได้ต่างๆกัน เช่น ในคำเหล่านี้ ‘cat’ ‘gate’ ‘was’ ‘any’ ‘tall’ bath’ ‘area’ หรือเช่นในคำว่า ‘ough’ การออกเสียงคำเหล่านี้อาจไม่มีวิธีการตายตัว เช่น ‘cough’ เสียงที่แยกได้คือ /k/-/o/-/f/ แต่ถ้าคำว่า ‘bough’ เสียงที่แยกได้คือ /b/-/ow/ ซึ่งเหมือนกับเสียงที่แยกได้ใน ‘cow’ ลองพิจารณาตัวอักษรชุดเดียวกันในคำ ‘though’ ‘through’ และ ‘enough’ ถึงแม้ว่าตัวอักษรจะเหมือนกันแต่การออกเสียงต่างกันไป ดังนั้นการเรียนการอ่านภาษาอังกฤษก็คือการที่สามารถผสมเสียงได้อย่างถูกต้องในแต่ละคำนั่นเองในบางครั้งผู้เรียนอาจต้องฝึกฝนการอ่านไปเรื่อยๆ จนเกิดเป็นความชำนาญในที่สุด
ภาษาอังกฤษไม่ได้มีกฎที่ตายตัวทำให้ไม่สามารถเรียนตามกฎได้ ความท้าทายของผู้ทำการศึกษาในขณะนี้คือทำอย่างไรที่จะให้เด็กๆเรียนรู้เสียงต่างๆได้อย่างถูกต้องพื้นฐานที่เด็กๆควรจะต้องมีคือการเรียนรู้เรื่องหน่วยพื้นฐานของเสียงนั้น ๆ ความท้าทายต่อมา คือทำอย่างไรที่จะรับประกันได้ว่าเด็กสามารถออกเสียงได้อย่างถูกต้อง
จากตัวอย่างข้างต้นการออกเสียงในกลุ่มเดียวกันของตัวอักษรไม่ตรงตามตัวเสมอหลายคำในภาษาอังกฤษที่เขียนในรูปแบบเดียวกันแต่อ่านออกเสียงแตกต่างกันไปซึ่งคำเหล่านี้ต้องอาศัยเวลาและวิธีสอนให้เกิดความเข้าใจเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน Children must know whether to say /off/ or /ow/ (ตัวอย่างเช่น) in a word like /cough/. Additionally many words in written English contain letters that seemingly make no contribution to the pronunciation of the word. This can lead to confusion and reading difficulties for any student. A word like /apple/ could as easily be written /apl/ where the three sounds are all present and eliminating the remaining letters /p/ and /e/. เด็กจะต้องทราบว่าจะพูด /ออฟ / หรือ / อาว / (ตัวอย่าง) ในคำเช่น / คอฟ / หลายคำนอกจากนี้ในการเขียนภาษาอังกฤษมีตัวอักษรที่ดูเหมือนจะให้การสนับสนุนการออกเสียงแต่จริงไม่ออกเสียงข้อนี้สามารถนำไปสู่ความสับสนและความยากลำบากในการอ่านสำหรับนักเรียนได้เช่น / apple / สามารถเขียนง่ายๆได้ / APL /อ่านเพียงสามเสียงเท่านั้น
ในประวัติศาสตร์การประชุมไม่ง่ายที่จะยกเลิกสิ่งเหล่านี้เว็บสเตอร์พยายามที่จะกำจัดข้อบกพร่องในการเขียนภาษาอังกฤษนี้ เช่น colour เป็น color โดยศตวรรษที่ 17 กำหนดหลักการสะกดคำให้เป็นแบบหลัก 2 แบบระหว่างการเขียนแบบอังกฤษและการเขียนแบบอเมริกัน